ทางเลือกตราสารการลงทุนในต่างประเทศ

ทางเลือกตราสารการลงทุนในต่างประเทศ

ทางเลือกที่ 1 : หุ้น (Stocks)

ตัวอย่าง ที่ 1 คือ Nicolas Darvas ผู้เขียนหนังสือชื่อ How I Made $2,000,000 in The Stock Market คือหนึ่งในตำนานที่น่าศึกษาของตลาดหุ้น Wall Street เหตุผลก็คือ ก่อนเขาเข้าวงการตลาดหุ้น เขามีอาชีพเป็นแดนซ์เซอร์ ผู้ไม่มีความรู้ด้านตลาดหุ้นหรือการเงินมาก่อน แต่สามารถทำกำไรจากตลาดหุ้นได้ถึง $2 ล้าน ในระยะเวลา 18 เดือน โดยเริ่มต้นจากเงินลงทุน $10,000 ตัวอย่างที่ 2 คือ Jesse Livermore คืออีกหนึ่งในตำนานตลาดหุ้น Wall Street เช่นกัน เหตุผลก็คือ ในปี 1891 ตอนเขาอายุ 14 ปี เขาหนีออกจากบ้านโดยมีเงินติดตัวเพียง $5 ต่อมาในปี 1907 ในขณะที่ตลาดหุ้นตกต่ำขาลงอย่างหนัก สันนิษฐานว่าเขาสามารถทำเงินในตลาดหุ้นได้มากกว่า $3 ล้าน ภายใน 1 วัน และในปี 1929 เขาเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจตกต่ำด้วยเงินสด $100 ล้าน (Jesse Livermore: World’s Greatest Stock Trader by Richard Smitten)

ทางเลือกที่ 2 : อีทีเอฟ (ETFs)

ตัวอย่าง การลงทุนใน ETFs ที่น่าศึกษา คือ การใช้กลยุทธ์ Global PowerTrend System ของ Chuck Hughes ก่อนที่เขาจะเข้ามาศึกษาเรื่องตลาดหุ้นอย่างจริงจัง เขามีอาชีพเป็นนักบินของสายการบินพาณิชย์ เขาเปิดบัญชีซื้อขายหุ้นครั้งแรกในปี 1984 ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้นเพียง $4,600 หลังจากใช้กลยุทธ์การลงทุนใน ETFs เขาสามารถสร้างผลตอบแทนอย่างต่อเนื่องจนกลายเป็น $4,672,382 เขากล่าวว่าเขาใช้กลยุทธ์การลงทุนใน ETFs มานานมากกว่า 10 ปี โดยที่เขาไม่เคยขาดทุนเลยแม้แต่ครั้งเดียว ในปีที่แล้วเขากำไรจากกลยุทธ์นี้ $520,931 ใน 60 วันที่ผ่านมาเขากำไรจากกลยุทธ์นี้ $72,738 ตัวอย่างตลาดโลกที่เขาลงทุนใน ETFs ได้แก่ 1.Currency 2.Commodity 3.Equity (Global PowerTrend System by Chuck Hughes)

ทางเลือกที่ 3 : ออปชั่น (Options)

ตัวอย่าง ที่ 1 คือ Greg Penn อดีตเขาเรียนจบชั้นมัธยมแต่เรียนไม่จบมหาวิทยาลัย เขาใช้ออปชั่นในการทำให้เงิน $2,079 กลายเป็น $106,580 ใน 31 วัน ตัวอย่างที่ 2 คือ Michael Parness อดีตเขาเรียนไม่จบแม้กระทั่งชั้นมัธยม เคยไม่มีบ้านอยู่ถึงขนาดต้องไปนอนบนม้านั่งในสวนสาธารณะ เขาเป็นผู้เขียนหนังสือชื่อ Rule The Freaking’ Markets เขาได้เล่าถึงวิธีการในการทำเงินจาก $33,000 ให้กลายเป็น $7 ล้าน ใน 15 เดือน ส่วนหนังสืออีกเล่มที่เขาเขียนชื่อ Rule Your Freakin’ Retirement หัวข้อในหน้าสารบัญหนังสือที่น่าศึกษาคือ “Trading Options for Retirement” เขาสามารถทำกำไรได้มากกว่า $137,000 ใน 1 วัน ต่อหน้าผู้คนเป็นร้อย ตัวอย่างที่ 3 คือ Chuck Hughes ได้กล่าวไว้ว่า “The World’s Most Powerful Business is Trading Options” เขาทำเงินไปแล้วมากกว่า $11,000,000 ใน 4 ปี (The Fail Safe Path to Financial Freedom by Chuck Hughes) ตัวอย่างที่ 4 คือ Dr.Clemen Chiang ชาวสิงคโปร์ ผู้เขียนหนังสือชื่อ A Millionaire’s Options: Unlocking the Secrets of Successful Options Investment

ทางเลือกที่ 4 : ฟิวเจอร์ (Futures)

ตัวอย่าง ที่ 1 คือ Richard Dennis ได้พิสูจน์ให้โลกเห็นแล้วว่าการเป็น Commodity Trader ที่ประสบความสำเร็จสามารถสร้างขึ้นหรือพัฒนาได้ ไม่ใช่พรสวรรค์แต่อย่างใด เขาใช้กลยุทธ์ Turtle Trading ในการทำเงิน $400 ให้กลายเป็น $200 ล้าน ลูกศิษย์ที่เรียนกับเขา 14 คนสามารถสร้างผลตอบแทนแบบทบต้นโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 80% ต่อปี ตัวอย่างที่ 2 คือ Larry Williams เขาเกิดในปี 1943 จบการศึกษาระดับปริญญาตรีด้านวารสารศาสตร์ ปี 1987 เขาเข้าแข่งขัน World Cup Championship of Futures Trading เทรดด้วยเงินจริงจาก $10,000 กลายเป็น $1,147,000 ใน 12 เดือน ต่อมาในปี 1997 เขาได้ส่งลูกสาวของเขาลงแข่งขันในรายการเดียวกัน ลูกสาวชื่อ Michelle Williams อายุ 16 ปี ผลปรากฎว่าชนะเลิศโดยสามารถสร้างอัตราผลตอบแทนได้ถึง 1,000% จากเงินทุนเริ่มต้น $10,000 (en.wikipedia.org)

ทางเลือกที่ 5 : กองทุน (Funds)

ตัวอย่าง ที่ 1 คือ Kyle Bass ผู้จัดกองทุนเฮดจ์ฟันด์ Hayman Capital Partners บริหารกองทุนจนเติบโต 600% ใน 18 เดือน คิดเป็นเงินมากกว่า $1,000 ล้าน ในช่วงวิกฤติซับไพร์ม (สำนักข่าว CNBC) ตัวอย่างที่ 2 คือ George Soros ผู้จัดการกองทุนเฮดจ์ฟันด์ Soros Fund Management ทำกำไรได้ประมาณ $1,100 ล้าน ในช่วงเหตุการณ์ Black Wednesday ปี 1992 (en.wikipedia.org)